นครราชสีมา : คําขวัญ เมืองหญิงกล้า ผ้าไหมดี หมี่โคราช ปราสาทหิน ดินด่านเกวียน ต้นไม้ประจำจังหวัด : สาธร

เลือกภาษา

พระผู้ทรงเป็นครูแห่งแผ่นดิน

พระผู้ทรงเป็นครูแห่งแผ่นดิน
พระผู้ทรงเป็นครูแห่งแผ่นดิน

ส.ค.ส. พระราชทาน ประจำปี ๒๕๕๖

Long live the King of Thailand

ในหลวงเสด็จทุ่งมะขามหย่อง อยุธยา

การแสดงชุดหลั่งเลือดทาบทา ปกปักษ์รักษาแผ่นดิน ณ ทุ่งมะขามหย่อง

วันอังคารที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2555

ผลสอบ 'แพ็ต1' วิชาคณิตต่ำ

สทศ.ประกาศผลสอบแก็ต/แพ็ตครั้งที่ 1 แล้ว พบภาพรวมคะแนนเฉลี่ยวิชาแพ็ต 1 ความถนัดทางคณิตศาสตร์ต่ำที่สุดเฉลี่ย 39.64 "สัมพันธ์"ปัดชี้แจงขอดูสาเหตุก่อนว่านักเรียนทำไม่ได้เองหรือข้อสอบยากเกินไป มั่นใจเว็บไซต์สทศ.ไม่ล้มแน่ เตือนนักเรียนสมัครสอบแก็ต/แพ็ต ครั้งที่ 2 ก่อนหมดเขตวันที่ 2 ก.พ.นี้ วันที่ 30 ม.ค. รายงานข่าวจากสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) แจ้งว่า ตามที่ สทศ.ได้จัดสอบการทดสอบวิชาความถนัดทั่วไป (แก็ต)และความถนัดทางวิชาการและวิชาชีพ (แพ็ต) ครั้งที่ 1/2555 ที่สอบวันที่ 24-27 ธ.ค.54 และกำหนดประกาศผลสอบวันที่ 31 ม.ค.55 นั้น ขณะนี้สทศ.ได้เลื่อนวันประกาศผลสอบแก็ต/แพ็ตมาเป็นวันที่ 30 ม.ค.ที่ผ่านมา ตั้งแต่เวลา 24.00 น.ที่ผ่านมาดังนั้นนักเรียนที่สมัครสอบดังกล่าวสามารถเข้าดูผลสอบที่เว็บไซต์ของ สทศ.ได้แล้วที่www.niets.or.th ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผลสอบวิชาแพ็ต 1 ความถนัดทางคณิตศาสตร์ ที่มีค่าเฉลี่ย 39.64 หรือมีค่าเฉลี่ยต่ำที่สุดในทุกวิชา นายสัมพันธ์ พันธุ์พฤกษ์ ผอ.สทศ.กล่าวในประเด็นนี้ว่าคะแนนดังกล่าวจะสะท้อนว่าเด็กไทยยังอ่อนวิชาคณิตศาสตร์นั้นยังไม่ขอชี้แจงในรายละเอียดเพราะต้องไปดูปัจจัยต่างๆ ก่อน ทั้งตัวเด็กนักเรียนเอง ข้อสอบหรือกำหนดวันสอบที่เคยมีมติเลื่อนหลายครั้ง ซึ่งจะมาชี้แจงในวันแถลงข่าวของ สทศ.วันที่ 5 ก.พ.ต่อไป ผอ.สทศ.กล่าวอีกว่าสทศ.ได้เร่งตรวจข้อสอบทั้งวันธรรมดาและวันหยุดทำให้ได้ประกาศผลสอบแก็ต/แพ็ตเสร็จก่อนกำหนด สำหรับภาพรวมการสอบแก็ต/แพ็ต ครั้งที่ 1 ขณะนี้ไม่มีปัญหาใดๆ ทั้งตัวข้อสอบที่เคยมีปัญหาผิดพลาดในบางปีจนต้องให้คะแนนฟรีแต่ในปีนี้ไม่มีปัญหาดังกล่าวและสำหรับภาพรวมยอดผู้ขาดสอบในแต่ละวิชาที่อยู่ระหว่างร้อยละ 11-42 ถือว่าเป็นยอดปกติของทุกปี อย่างไรก็ตามตนขอย้ำกับนักเรียนที่ไม่มั่นใจในผลสอบแก็ต/แพ็ตของตนเองว่าสามารถยื่นคำร้องขอตรวจสอบกระดาษคำตอบด้วยตนเองตั้งแต่วันที่ 31 ม.ค.-7 ก.พ.55 ได้ที่ สทศ.เพราะหากเลยกำหนดการรับยื่นคำร้องแล้วก็จะไม่รับยื่นคำร้องในภายหลัง ผอ.สทศ.กล่าวอีกว่า ตนอยากเตือนให้นักเรียนทุกคนที่จะสมัครสอบแก็ต/แพ็ต ครั้งที่ 2 ซึ่งจะหมดเขตรับสมัครในวันที่ 2 ก.พ.นี้ ให้รีบสมัครสอบโดยเร็วโดยหากเลยวันรับสมัครดังกล่าวไป สทศ.ก็จะไม่ขยายวันรับสมัครอีก ส่วนการสอบ 7 วิชาสามัญ เพื่อไปคัดเลือกเข้าเรียนต่อในสถาบันอุดมศึกษาในระบบรับตรงหรือเคลียริงเฮาส์นั้น สทศ.ยืนยันว่าจะประกาศผลสอบดังกล่าวได้ทันตามกำหนดเดิมวันที่ 5 ก.พ.นี้ นอกจากนี้ ในวันดังกล่าวสทศ.จะจัดงานแถลงข่าวการประกาศผลสอบทั้งแก็ต-แพ็ต ครั้งที่ 1 และผลสอบ 7 วิชาสามัญโดยจะชี้แจงถึงรายละเอียดต่างๆ ของการสอบทั้งหมดต่อไป "นับตั้งแต่ที่สทศ.เปิดให้ดูผลสอบแก็ต/แพ็ต ครั้งที่ 1 ได้ ถึงขณะนี้ (เวลา 16.30 น.) เว็บไซต์ของสทศ.ยังไม่ล่มเลย ซึ่งผมก็มั่นใจว่าเว็บไซต์ในคงจะไม่ไปล่มในภายหลังแน่ ทั้งนี้อยากเตือนเด็กนักเรียนทุกคนที่จะสมัครสอบแก็ต/แพ็ต ครั้งที่ 2 ให้รีบสมัครและจ่ายเงินทันตามกำหนด เพราะวันสมัครก็จะหมดเขตในไม่ถึง 3 วันนี้แล้ว"ผอ.สทศ.กล่าว อ้างอิงจาก http://www.enn.co.th/1945-%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%9A_%27%E0%B9%81%E0%B8%9E%E0%B9%87%E0%B8%951%27_%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%93%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%B3.html

ผลการประชุม ก.ค.ศ.ครั้งที่ ๑/๒๕๕๕ ก.ค.ศ.เลื่อนรับสมัครสอบ รอง ผอ./ผอ.สถานศึกษา 31 ม.ค.-6 ก.พ.55 รอจนกว่าหลักเกณฑ์ใหม่เสร็จ

ศาสตราจารย์ ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ ๑/๒๕๕๕ เมื่อวันที่ ๓๐ มกราคม ๒๕๕๕ ว่าที่ประชุมได้พิจารณาหลักเกณฑ์การสอบคัดเลือกเพื่อบรรจุและแต่งตั้งผู้บริหารสถานศึกษาและรองผู้บริหารสถานศึกษา ในช่วงเปลี่ยนผ่านการใช้บังคับหลักเกณฑ์และวิธีการสรรหาใหม่ โดยมีมติทบทวนวิธีการสอบใหม่ ให้ตัดภาค ข. ออกไป เพื่อลดการใช้ดุลยพินิจในการประเมิน ซึ่งเป็นปัญหาข้อร้องเรียนจำนวนมากที่นำไปสู่การวิ่งเต้นเสียเงินทองของครู รมว.ศธ. กล่าวว่า เนื่องจากมีคนจำนวนมากที่เข้าสู่ตำแหน่งนี้ และมีการเรียกรับเงินของคณะกรรมการต่างๆ เพื่อแลกกับตำแหน่ง จึงจำเป็นต้องจัดการให้เกิดความโปร่งใส ไม่ให้มีการคอรัปชันทั้งในการสอบ การเลื่อนวิทยฐานะ และการเลื่อนเงินเดือน โดยหลักเกณฑ์การสอบเดิมจะให้ผู้สมัครสอบในภาค ก. และภาค ข. โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสอบวิสัยทัศน์หรือการสอบสัมภาษณ์ ซึ่งอยู่ในดุลยพินิจของผู้สอบ แต่วันนี้ ศธ.มีเป้าหมายจะลดการใช้ดุลยพินิจในการประเมินลง เพราะข้อร้องเรียนจำนวนมาก มาจากการวิ่งเต้นเข้าหากรรมการในการสอบหรือการประเมิน ดังนั้น ที่ประชุมจึงเห็นชอบที่จะให้มีการสอบเฉพาะภาค ก. ซึ่งเป็นข้อสอบแบบปรนัย โดยจะให้สถาบันการศึกษาที่มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับเป็นผู้ออกข้อสอบและจัดสอบ โดยจะแสดงผลการสอบอย่างโปร่งใสทางคอมพิวเตอร์ ผู้เข้าสอบสามารถขอดูคะแนนได้ ทั้งนี้ได้มอบหมายให้เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) และเลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (เลขาธิการ ก.ค.ศ.) ร่างระเบียบกฎเกณฑ์ เพื่อนำมาเสนอในการประชุมครั้งต่อไป ในวันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าหลักเกณฑ์นี้จะมีข้อจำกัดสำหรับคนทำงานเก่งๆ อาจจะได้คะแนนน้อยกว่าคนที่ท่องหนังสือเก่ง ก็ถือเป็นข้อท้วงติงหนึ่ง เพราะกรรมการบางท่านก็ต้องการให้คะแนนสำหรับผู้บริหารมาแล้วสูงขึ้น แต่การปรับปรุงวิธีการสอบนี้มีเป้าหมายที่จะขจัดปัญหาคอรัปชันในวงการศึกษา ไม่ต้องการให้ครู ผู้บริหาร และบุคลากรทางการศึกษากว่า ๘ แสนคน ต้องวิ่งเต้น จ่ายเงิน หรือมีผู้เรียกรับเงินจากครู ซึ่งจะเป็นการช่วยลดรายจ่าย ลดหนี้สิน สามารถให้ทุกคนเข้าสู่ตำแหน่งด้วยความยุติธรรม ไม่เสียเงินทองวิ่งเต้นอีกต่อไป นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการ กพฐ. กล่าวว่า การปรับปรุงการสอบดังกล่าว มีนัยยะการสอบภาค ก. ที่จะพยายามขจัดการเรียกรับผลประโยชน์และการวิ่งเต้น ซึ่ง สพฐ.จะไปจัดทำหลักเกณฑ์ใหม่ ให้เน้นข้อสอบเป็นปรนัย ให้คนมีประสบการณ์มาใช้ประโยชน์ในการสอบ โดยสถาบันการศึกษาที่มีชื่อเสียงจะเป็นผู้ออกข้อสอบ แต่เมื่อ สพฐ. ได้ประกาศปฏิทินการสอบไปแล้ว โดยกำหนดรับสมัครในระหว่างวันที่ ๓๑ มกราคม-๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ ดังนั้นที่ประชุมจึงมีมติให้เลื่อนการรับสมัครไปก่อน จนกว่าหลักเกณฑ์ใหม่จะแล้วเสร็จ อ้างอิงและรูปจาก ข่าวสำนักงานรัฐมนตรีฯ http://www.moe.go.th/websm/2012/jan/035.html

วันอังคารที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2555

ประกาศรับสมัครคัดเลือกข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสถานศึกษาและผู้อำนวยการสถานศึกษาสังกัดสพฐ.(ภาค ก)

23 มกราคม 2555 ประกาศรับสมัคร 31 มกราคม - 6 กุมภาพันธ์ 2555 รับสมัคร 16 กุมภาพันธ์ 2555 ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบ ภาค ก(ทั้งสอบและคัดเลือก) 26 กุมภาพันธ์ 2555 สอบภาค ก 9 มีนาคม 2555 ประกาศรายชื่อผู้ผ่านภาค ก (ทั้งสอบและคัดเลือก) อ้างอิงและดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://doc-14-8g-docsviewer.googleusercontent.com/viewer/securedownload/dsn1aovipa7l846lsfcf94nedj8q2p4u/7s1su8bnsq338065pgfno8r5hgm80ndh/1327391100000/dXJs/AGZ5hq8BgbJY1gwaOYx83cPOdNw6/aHR0cDovLzIwMi4xNDMuMTc0LjExL3BlcnNvbm5lbC9uZXdzMjAxMS91cGZpbGVzLzIyNC5wZGY=?docid=13140c2b857baa60576f4fde09c71053&chan=EQAAALF2XM0y6e5yENS5229ItCJr7DJZHOuT4SEUAHPslpZt&sec=AHSqidYJSYMmDpiRyjLr1gCpbaNizs4D1jt0g_XEcGJ0JQBDAp0KbgQPhYFHhAjkF1co5BtETUpb&a=gp&filename=224.pdf&nonce=812hloc7iubgs&user=AGZ5hq8BgbJY1gwaOYx83cPOdNw6&hash=n8k1so4e0582gjss9oq87hfh6oh5ur89

วันจันทร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2555

นายศักดา คงเพชร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร 2

ประวัติส่วนตัว เกิดวันที่ 3 มีนาคม พ.ศ.2504 บ้านเลขที่ 255 หมู่ที่ 15 หมู่บ้านป่ายาง ถนนปทีมานนท์ ตำบลเกษตรวิสัย อำเภอเกษตรวิสัย จังหวัดร้อยเอ็ด รหัสไปรษณีย์ 45150 โทรศัพท์ : 043 589 314 โทรสาร : 043 589 529 มือถือ : 081 872 1122 ประวัติการศึกษา ปริญญาตรี ศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด ปวส. สาขาการจัดการ มัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนโยธินบูรณะ ประสบการณ์ทางการเมือง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2538, 2539, 2544, 2548, 2550 เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี 18 มกราคม 2555 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ประสบการณ์การทำงาน 27 มิถุนายน 2551 กรรมาธิการส่งเสริมราคาผลิตผลเกษตรกรรม 2 กรกฎาคม 2538 ส.ส.ร้อยเอ็ด เขต 2 พรรคชาติไทย สมัยที่ 1 (ยุบสภา 27 ก.ย.2539) 15 สิงหาคม 2538 ผู้ช่วยโฆษกคณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ คนที่ 2 15 สิงหาคม 2538 ผู้ช่วยโฆษกคณะกรรมาธิการการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คนที่ 2 17 พฤศจิกายน 2539 ส.ส.ร้อยเอ็ด เขต 2 พรรคความหวังใหม่ สมัยที่ 2 (ลาออก) 19 ธันวาคม 2539 กรรมาธิการการพลังงาน 19 ธันวาคม 2539 กรรมาธิการการแรงงานและสวัสดิการสังคม 26 ธันวาคม 2539 ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ฝ่ายการเมือง 6 มกราคม 2544 ส.ส.ร้อยเอ็ด เขต 8 พรรคไทยรักไทย 27 กุมภาพันธ์ 2544 เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา) 12 มิถุนายน 2544 เลขานุการคณะกรรมาธิการการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 6 กุมภาพันธ์ 2548 ส.ส.ร้อยเอ็ด เขต 7 พรรคไทยรักไทย (62,863 คะแนน) 27 เมษายน 2548 กรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจ 2 เมษายน 2549 ส.ส.ร้อยเอ็ด เขต 7 พรรคไทยรักไทย (53,129 คะแนน) 23 ธันวาคม 2550 ส.ส.ร้อยเอ็ด เขต 2 พรรคพลังประชาชน (145,522 คะแนน) 27 มิถุนายน 2551 กรรมาธิการส่งเสริมราคาผลิตผลเกษตรกรรม 1 ธันวาคม 2551 ส.ส.ร้อยเอ็ด เขต 2 พรรคเพื่อไทย ประธานกรรมาธิการกิจการสภา-กรรมาธิการแรงงาน, เกษตร, พลังงาน, วิทยาศาสตร์, ราคาพืชผลเกษตรกรรม ประธานคณะทำงานช่วยเหลือผู้ประสบภัย สภาผู้แทนฯ เครื่องราชอิสริยาภรณ์ มหาปรมาภรณ์ช้างเผือกมหาวชิรมงกุฎ อ้างอิงข้อมูลจาก http://www.moe.go.th/websm/minister/sakda.htm รูปภาพจาก http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A8%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%94%E0%B8%B2_%E0%B8%84%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%8A%E0%B8%A3

วันพุธที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2555

สุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการคนใหม่

ศาสตราจารย์ ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง อดีตอาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ดร.สุชาติ เกิดวันที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2495 จบการศึกษาเศรษฐศาสตรบัณฑิต (เกียรตินิยมดี) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปริญญาโทเศรษฐศาสตร์ The London School of Economics and Political Science สหราชอาณาจักร ปริญญาเอกเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยแมคมาสเตอร์ ประเทศแคนาดา ปริญญาบัตรหลักสูตรวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร ภาครัฐร่วมเอกชนรุ่นที่ 1 วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร ดร.สุชาติ สมรสกับนางวัชรี ธาดาธำรงเวช (สกุลเดิม พิพัฒน์ประทานพร) นักวิชาการพาณิชย์เชี่ยวชาญ กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ มีบุตร 2 คน คือ นายกรกฎ จัสติน ธาดาธำรงเวช และนางสาวอรณิชา ธาดาธำรงเวช รับราชการเป็นอาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยรามคำแหง และได้รับตำแหน่งรองอธิการบดีฝ่ายวิเทศสัมพันธ์และวิจัย มหาวิทยาลัยรามคำแหง ในปี พ.ศ. 2534 นอกจากนั้นยังได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการของรัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นๆ อีกหลายหน่วยงาน ได้แก่ การประปาส่วนภูมิภาค กรรมการและกรรมการตรวจสอบ ธนาคารศรีนคร จำกัด (มหาชน) กรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร กรรมการการประปานครหลวง ได้รับตำแหน่งทางวิชาการ เป็นรองศาสตราจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหงด้วย ปริญญาเอก Ph.D. in Economics, McMaster University, Canada 2526 ปริญญาโท M.Sc. in Economics, The London School of Economics and Political Science, United Kingdom 2522 ปริญญาตรี เศรษฐศาสตร์บัณฑิต (เกียรตินิยมดี) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 2518 อื่นๆ ปริญญาบัตรหลักสูตรวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร ภาครัฐร่วมเอกชนรุ่นที่ 1 วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร 2534 ศิษย์เก่าดีเด่น ประจำปี เศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 2537 ปัจจุบัน กรรมการในคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ รองศาสตราจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง กรรมการนโยบายข้าว (กนข.) กรรมการปิโตรเลียม ที่ปรึกษา คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน กรรมการและประธานกรรมการตรวจสอบ บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) กรรมการอิสระและกรรมการตรวจสอบ บริษัท ป.ต.ท. จำกัด (มหาชน) กรรมการอิสระและกรรมการตรวจสอบ ธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) กรรมการและประธานกรรมการตรวจสอบ บริษัท แพนเอเชียฟุตแวร์ จำกัด (มหาชน) กรรมการสภามหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประสบการณ์ นักวิจัย World Bank พ.ศ. 2534 - 2536 : รองอธิการบดีฝ่ายวิเทศสัมพันธ์ และวิจัย มหาวิทยาลัยรามคำแหง พ.ศ. 2535 - 2538 : กรรมการ การประปาภูมิภาค พ.ศ. 2541 - 2545 : กรรมการและกรรมการตรวจสอบ ธนาคารศรีนคร จำกัด (มหาชน) พ.ศ. 2544 : กรรมการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร พ.ศ. 2544 - 2545 : กรรมการ การประปานครหลวง พ.ศ. 2546 : ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พ.ศ. 2546 - มีนาคม 2548 : ที่ปรึกษานโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กรรมการและประธานกรรมการตรวจสอบ บริษัท บางกอกรับเบอร์ จำกัด (มหาชน) ข้อมูลอ้างอิงจาก http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B4_%E0%B8%98%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%B2%E0%B8%98%E0%B8%B3%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B8%8A และ http://www.nidambe11.net/person/biography/suchart_thada-thamrongvech.htm

ครม.ใหม่ทูลเกล้าฯแล้ว

นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี เปิดเผยเมื่อวันที่ 18 มกราคม 2555ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่แล้ว โดยมีการปรับรัฐมนตรีเดิมออก 10 คน และสลับตำแหน่งอีก 6 คน รวมการปรับเปลี่ยนครั้งนี้ 16 ตำแหน่ง ดังนี้ 1.ให้รัฐมนตรีพ้นจากความเป็นรัฐมนตรี ดังต่อไปนี้ พลตำรวจเอก โกวิท วัฒนะ รองนายกรัฐมนตรี พ้นจากความเป็นรัฐมนตรี นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พ้นจากความเป็นรัฐมนตรี นายสุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พ้นจากความเป็นรัฐมนตรี นางสาวกฤษณา สีหลักษณ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พ้นจากความเป็นรัฐมนตรี พลเอก ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พ้นจากความเป็นรัฐมนตรี นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พ้นจากความเป็นรัฐมนตรี นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง พ้นจากความเป็นรัฐมนตรี นายพรศักดิ์ เจริญประเสริฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พ้นจากความเป็นรัฐมนตรี พลอากาศเอก สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พ้นจากความเป็นรัฐมนตรี นายกิตติศักดิ์ หัตถสงเคราะห์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พ้นจากความเป็นรัฐมนตรี นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พ้นจากความเป็นรัฐมนตรี นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พ้นจากความเป็นรัฐมนตรี นางบุญรื่น ศรีธเรศ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พ้นจากความเป็นรัฐมนตรี นายสุรพงษ์ อึ้งอัมพรวิไล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พ้นจากความเป็นรัฐมนตรี นายต่อพงษ์ ไชยสาส์น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พ้นจากความเป็นรัฐมนตรี นายวรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พ้นจากความเป็นรัฐมนตรี 2. ให้แต่งตั้งรัฐมนตรี ดังต่อไปนี้ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง เป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พลเอก ยุทธศักดิ์ ศศิประภา เป็นรองนายกรัฐมนตรี นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นางนลินี ทวีสิน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พลอากาศเอก สุกำพล สุวรรณทัต เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายอารักษ์ ชลธาร์นนท์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายศักดา คงเพชร เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายสุรวิทย์ คนสมบูรณ์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข หม่อมราชวงศ์พงษ์สวัสดิ์ สวัสดิวัตน์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 18 มกราคม พุทธศักราช 2555 เป็นปีที่ 67 ในรัชกาลปัจจุบัน ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี อ้างอิงจาก http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1326888284&grpid=00&catid=&subcatid= ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่

วันจันทร์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2555

เปิดงานวันครูประจำปี ๒๕๕๕ และมอบรางวัล “หนึ่งแสนครูดี”

เปิดงานวันครูประจำปี ๒๕๕๕ และมอบรางวัล “หนึ่งแสนครูดี”
๑๕ มกราคม ๒๕๕๕ สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา จัดพิธีเปิดงาน วันครู ครั้งที่ ๕๖ “ครูดี ตามรอย..พระผู้ทรงเป็นครูแห่งแผ่นดิน” และมอบรางวัล “หนึ่งแสนครู” ให้แก่ ครูในเขตกรุงเทพมหานคร โดยมี นางศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานในพิธี และมอบรางวัลดังกล่าว ในการนี้ ดร.องค์กร อมรสิรินันท์ เลขาธิการคุรุสภา เป็นผู้กล่าวรายงานการจัดงานในครั้งนี้ ร่วมด้วย คณะกรรมการคุรุสภา คณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ คณะอนุกรรมการจัดงานวันครู คณะอนุกรรมการยกย่องและส่งเสริมผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา รองเลาธิการคุรุสภา นายณรงค์ฤทธิ์ มะลิวัลย์ นายศรายุทธ เจริญผล นายสุรินทร์ อินทรักษา พร้อมด้วย ข้าราชการ ประชาชน และเจ้าหน้าที่คุรุสภา เข้าร่วมงานกันอย่างคับคั่ง หลังการเปิดงาน มีการแสดงจากคณะนักเรียนโรงเรียนอนุบาลศรีษะเกษ จ.ศรษะเกษ ผลงานของครูวีรยา ศิริรัชฎานันท์ ครูผู้ได้รับรางวัลคุรุสภา ประจำปี ๒๕๕๔ รวมทั้งได้จัดให้มีการลงสมุดบันทึก “ครูดี ตามรอย...พระผู้ทรงเป็นครูแห่งแผ่นดิน” เพื่อนำทูลเกล้าฯ ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และชมนิทรรศการผลงานครูที่ได้รับรางวัลต่างๆ บรรยากาศในงานเป็นไปอย่างซาบซึ้ง ประกอบบทเพลง “รางวัลของครู” ทำให้คุณครูที่เข้าร่วมงานถึงกับน้ำตาคลอ ทั้งนี้ ครูผู้เข้ารับรางวัล “หนึ่งแสนครูดี” ในวันที่ ๑๕ มกราคม ๒๕๕๕ ณ หอประชุมคุรุสภา เป็นครูในสังกัดกรุงเทพมหานคร และสังกัดสำนักการศึกษากรุงเทพมหานครทั้งหมด ในส่วนของสังกัดอื่นๆ ที่อยู่ในกรุงเทพมหานครจะเข้ารับในวันที่ ๑๖ มกราคม ๒๕๕๕ ในภาคบ่าย สำหรับในต่างจังหวัด จะรับในงานวันครูที่ ๑๖ มกราคม ๒๕๕๕ ที่สำนักงานเขตพื้นที่การประถมศึกษาแต่ละจังหวัดจัดขึ้น อ้างอิงจาก http://www.ksp.or.th/ksp2009/th/news/detail.php?NewsID=2677&Key=news2

วันพุธที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2555

ประกาศผลการคัดเลือกผลิตภัณฑ์อาหารและศิลปะของโรงเรียนจำหน่ายในงานศิลปหัตกรรมนักเรียนระดับชาติ ประจำปีการศึกษา ๒๕๕๕ "สุดยอดเด็กไทย ก้าวไกลในอาเซียน"

ประกาศผลการคัดเลือกผลิตภัณฑ์อาหารและศิลปะของโรงเรียนจำหน่ายในงานศิลปหัตกรรมนักเรียนระดับชาติ ประจำปีการศึกษา ๒๕๕๕ "สุดยอดเด็กไทย ก้าวไกลในอาเซียน" ระหว่างวันที่ ๒๕-๒๗ มกราคม ๒๕๕๕ ณ อาคารชาเลนเจอร์ ๑-๓ เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี
มีหลายโรงเรียนข้อมูลเพิ่มเติมอ้างอิงจาก http://www.obec.go.th/sites/obec.go.th/files/document/attachment/15835/158659.pdf

วันพุธที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2555

๙ โครงการสำคัญที่ ศธ.จะขับเคลื่อนการทำงานในปี ๒๕๕๕

นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการประชุมกระทรวงศึกษาธิการ ครั้งที่ ๕/๒๕๕๔ เมื่อเร็วๆ นี้ว่า ได้ฝากให้ผู้บริหารองค์กรหลักร่วมกันขับเคลื่อนการทำงานตามโครงการสำคัญของ ศธ. ที่จะดำเนินการในปี ๒๕๕๕ จำนวน ๙ โครงการ ๑) ยุทธศาสตร์การจัดการศึกษาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งมอบให้สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) เป็นผู้จัดทำร่างยุทธศาสตร์ดังกล่าว โดยให้มีการบูรณาการระหว่างโครงการสำคัญเร่งด่วน (Flagship) ทั้ง ๒๐ โครงการ เข้ากับแผนยุทธศาสตร์ ๒๕๕๕ ของ ศธ. โดยจะนำเสนอให้นายกรัฐมนตรี รวมทั้งสาธารณชนได้รับทราบภายในเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ ๒) โครงการ “๒๕๕๕ ปีแห่งการรณรงค์พูดภาษาอังกฤษ” หรือ English Speaking Year 2012 ซึ่งได้กำหนดให้ภายใน ๑ สัปดาห์ จะต้องมี ๑ วันที่ครูและนักเรียนนักศึกษาได้ทำกิจกรรมและใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร พร้อมทั้งเน้นย้ำให้ผู้บริหารและบุคลากรใน ศธ.ควรดำเนินการเช่นเดียวกันด้วย โดยเริ่มต้นจากการสื่อสารหรือทักทายกันเป็นภาษาอังกฤษกันทุกๆ วันจันทร์ ๓) การปรับปรุงพัฒนาโทรทัศน์เพื่อการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ ETV ๔) การส่งแรงงานไทยไปทำงานในประเทศออสเตรเลีย ซึ่งเป็นโครงการพิเศษร่วมกับออสเตรเลีย เพื่อพัฒนาฝีมือแรงงานไทยและส่งไปทำงานที่ประเทศออสเตรเลียในด้านการก่อสร้าง น้ำมัน แก๊ส และอื่นๆ เพราะออสเตรเลียมีความต้องการแรงงานไทยมากกว่า ๑ แสนคน ๕) คอมพิวเตอร์แท็บเล็ต ได้มีนำร่องการประยุกต์และบูรณาการคอมพิวเตอร์แท็บเล็ตเพื่อการเรียนการสอนในระดับประถมศึกษาตามแนวนโยบายของรัฐบาล ใน ๕ โรงเรียนทุกภูมิภาคแล้ว ล่าสุดนายกรัฐมนตรีได้แต่งตั้งคณะกรรมการบริหารนโยบาย ๑ คอมพิวเตอร์แท็บเล็ต ต่อ ๑ นักเรียน รวมทั้งคณะอนุกรรมการด้านต่างๆ เช่น คณะอนุกรรมการด้านวิชาการ ด้านการสรรหาเครื่องคอมพิวเตอร์แท็บเล็ต ด้านการประสานงานโครงข่ายเทคโนโลยีและการสื่อสารสารสนเทศ และด้านความเหมาะสมและความปลอดภัยในการเข้าถึงข้อมูล ๖) การจัดตั้งสถาบันการอาชีวศึกษา ซึ่ง ศธ.ได้เห็นชอบหลักการในการจัดตั้งที่ยึดพื้นที่ (Area Based) เป็นหลัก โดยให้สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาเน้นการจัดตั้งแบบบูรณาการ ทั้งสถานศึกษาอาชีวศึกษาและวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี เพื่อให้เกิดการเชื่อมต่อการศึกษาทั้งระบบ ๗) ศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน โดยเน้นทั้งระดับ กศน. และอาชีวศึกษา ๘) กองทุนตั้งตัวได้ ซึ่ง ศธ.จะเน้นการเชื่อมโยงกับวิสาหกิจในสถานศึกษา รองรับกับระบบศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน โดยเน้นร่วมกันพัฒนาและประสานเครือข่าย ให้เกิดการเชื่อมโยงกับผู้ประกอบการ ธุรกิจนวัตกรรม การพัฒนาทักษะกลุ่มอาชีพหลัก โดย ศธ.จะเป็นเจ้าภาพหลักในการดำเนินการตามนโยบายนี้ ซึ่งถือเป็นโยบายสำคัญของรัฐบาล ๙) หลักสูตรพัฒนาศักยภาพ ซึ่งเป็นหลักสูตรใหม่ที่ สพฐ.ดำเนินการปรับปรุงร่วมกับมหาวิทยาลัย โดยจะใช้ในปีการศึกษา ๒๕๕๕ โดยจะได้บรรจุหลักสูตรใหม่ลงในคอมพิวเตอร์แท็บเล็ตด้วย อ้างอิงจาก http://www.moe.go.th/websm/2011/dec/352.html

วันอังคารที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2555

ส.ค.ส. พระราชทาน ประจำปี 2555

ส.ค.ส. พระราชทาน ประจำปี 2555 เป็นพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในฉลองพระองค์สากลสีเทาลายริ้วสีอ่อน ปกด้านซ้าย ทรงประดับเข็มเครื่องหมายมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ทรงผูกเนคไทสีแดงมีลวดลายสีทอง ฉลองพระองค์ชั้นในเป็นเชิ้ตขาว ประทับบนพระเก้าอี้ ทรงฉายกับสุนัขทรงเลี้ยง ด้านขวามีข้อความจากพระราชนิพนธ์เรื่องพระมหาชนก ความว่า "ถึงจะมองไม่เห็นฝั่ง เราก็ต้องพยายามว่ายอยู่ท่ามกลางมหาสมุทร โภคะทั้งหลาย มิได้สำเร็จด้วยเพียงคิดเท่านั้น" ด้านซ้ายมีข้อความว่า "ขอจงมีความสุขความเจริญ ๒๕๕๕" และ "Happy New Year 2012" อ้่างอิงจาก http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AA.%E0%B8%84.%E0%B8%AA._%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%99

จดหมายเปิดผนึกฉบับที่ 12/2554 โดย ดร.รังสรรค์ มณีเล็ก

อัตราจ้าง ปัจจุบัน สพฐ.มีอัตราจ้างทั้งที่อยู่บน สพฐ. สพท.และโรงเรียน จำนวนทั้งสิ้น 65,172 อัตรา กลุ่มใหญ่ที่สุดก็คือ ธุรการ กับพี่เลี้ยงเด็กพิการเรียนร่วม ซึ่งมีจำนวน 14,532 คน และ 14,341 คน ตามลำดับ ที่ผ่านมาเป็นความพยายามที่จะทำให้อัตราจ้างทุกคน มีความมั่นคงในการทำงานและมีรายได้ที่พอเพียงในการดำรงชีพ งานกับเงินค่าตอบแทนมีความสมดุลกัน ความพยายามที่จะทำให้เป็นตำแหน่งถาวร ซึ่งขณะนี้ยังไม่ทราบว่าจะเป็นพนักงานราชการ หรือข้าราชการ แต่ที่แน่ๆก็คือ ถึงเดือนกันยายนแล้ว ไม่ต้องมานั่งใจหายใจคว่ำว่าจะได้ทำงานต่อหรือเปล่า ขณะนี้ก็ยังไม่สำเร็จ แต่ก็ยังไม่ละความพยายามครับ เราไม่สามารถกำหนดอัตราต่างๆได้ตามอำเภอใจ ต้องไปเกี่ยวข้องกับ ก.ค.ศ. และ คปร.(คณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ) ขณะนี้กำลังจะตั้งงบประมาณปี 2556 ขณะที่งบประมาณปี 2555 ก็ยังไม่เรียบร้อย สนผ.มีความคิดว่าจะตั้งงบประมาณสำหรับธุรการ ประมาณ 19,000 คน โดยจะลดภาระงานสำหรับน้องๆที่ดูแลโรงเรียนตั้งแต่ 300 คนลงมา (25,327 โรง) ให้เหลือ 1 คนต่อ 2 โรงเรียน ที่เหลือ 301 คนขึ้นไป(6,097 โรง) โรงเรียนละ 1 คน สำหรับตำแหน่งอื่นๆก็พยายามดูแลเรื่องค่าตอบแทนรายเดือน ค่าตอบแทนที่ต่ำสุดขณะนี้เดือนละ 5,700 บาท ถูกหักประกันสังคมอีก 285 บาท เหลือ 5,415 บาท ซึ่งเป็นเงินค่าตอบแทนการทำงานที่น้อยมาก อย่าคิดจะไปเลี้ยงคนอื่นเลย เฉพาะตัวเองก็ยังไม่ค่อยอิ่มท้องเลย ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่น่าเห็นใจมากและผู้ที่เกี่ยวข้องคงต้องหาทางช่วยเหลือโดยด่วน และเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกในการค้นหาหนังสือการโอนเงินค่าตอบแทนรายเดือน สนผ.ได้ไปขอเลขที่หนังสือการโอนเงินจาก สคส.และนำมาลงไว้ในหน้าเว็บไชด์นี้แล้ว การช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ขณะนี้ภัยที่เกิดขึ้นจากน้ำท่วมทุเลาลงแล้ว เหลือไว้ไห้เห็นแต่เพียงร่องรอยความเสียหาย และภัยจากความหนาวเย็นกำลังคืบคลานเข้ามาในหลายจังหวัด สำหรับการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบอุทกภัยนั้น สพฐ. ได้รับงบประมาณมาแล้ว 898 ล้าน จำแนกเป็น 1. งบลงทุน สำหรับปรับปรุงซ่อมแซมอาคารเรียน/อาคารประกอบ 716 โรงเรียน 442 ล้าน 2. งบดำเนินงาน สำหรับปรับปรุงซ่อมแซม วงเงินต่ำกว่า 50,000 บาท และค่าวัสดุ อุปกรณ์ 1,370 โรงเรียน 219 ล้าน 3. งบอุดหนุน สำหรับจัดซื้อหนังสือเรียน เสื้อผ้า และอุปกรณ์การเรียน สำหรับนักเรียน 269,008 คน จาก 1,356 โรงเรียน 237 ล้าน ซึ่งขณะนี้ สพฐ. กำลังจัดสรรและโอนงบประมาณให้เขตพื้นที่ และโรงเรียนที่ได้รับความเสียหาย นอกจากนี้ ยังมีผู้ประสบวาตภัย/อุทกภัย ซึ่งตกค้างอยู่เมื่อต้นปี 2554 อีก 184 โรงเรียนจาก 56 เขตพื้นที่ งบประมาณ 70 ล้านเศษ ก็กำลังโอนงบประมาณเช่นเดียวกัน สำหรับโรงเรียนที่ส่งประมาณการความเสียหายมารอบหลังอีก 1,900 โรง จาก 120 เขตพื้นที่ใน 53 จังหวัด งบประมาณ 1,353 ล้าน สพฐ. กำลังเสนอของบประมาณเพิ่มเติมให้แล้วครับ การจัดสรรงบประมาณช่วยเหลืออุทกภัย เป็นการจัดสรรตามคำของบประมาณของโรงเรียน รายการใดที่ไม่ใช่ความเสียหายที่เกิดจากอุทกภัย รายการนั้นๆก็จะไม่ได้รับงบประมาณ บัญชีจัดสรรดังกล่าวนี้ นอกจากเขต/โรงเรียนจะทราบจาก สพฐ.แล้ว ก็ยังจะได้รับแจ้งจากทางผู้ว่าราชการจังหวัดอีกทางหนึ่งด้วย งบประมาณปี 2555 ขณะนี้งบประมาณปี 2555 ของ สพฐ. ได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมาธิการงบประมาณเรียบร้อยแล้ว สพฐ. ขอไป 269,827.7697 ล้านบาท ถูกตัดงบประมาณไป 1,057.1728 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม เราได้งบแปรญัตติ (งบเพิ่มเติม) อีก 4,459 ล้านบาท สรุป ปี 2555 สพฐ. ได้งบประมาณทั้งสิ้น 273,229.5969 ล้านบาท เพิ่มจากปี 2554 จำนวน 26,402.9265 ล้านบาท (ปี 2554 ได้รับ 246,826.6704 ล้านบาท) งบประมาณดังกล่าวนี้ จะต้องนำเข้าสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาวาระ 2-3 และวุฒิสภาอีกครั้งหนึ่ง จะจบสมบูรณ์ประมาณปลายเดือนมกราคม 2555 ครับ ในส่วนของงบแปรญัตติจะมี 2 รายการ รายการแรกเป็นการก่อสร้าง/ปรับปรุง/ซ่อมแซม อาคารเรียน/อาคารประกอบ 3,947 ล้านบาท รายการที่สองเป็นเครื่องทำน้ำเย็น/เครื่องกรองน้ำ 512 ล้านบาท รวม 4,459 ล้านบาท การจัดสรรงบแปรญัตติดังกล่าวจะจัดสรรแตกต่างกันไปตามความต้องการของแต่ละพื้นที่ กระบวนการงบประมาณก็เหมือนเดิมครับ กล่าวคือโรงเรียนจะเสนอของบประมาณผ่านเขตพื้นที่ไปยัง สพฐ. สิ่งที่ต้องขอความร่วมมือจากเขตพื้นที่ โดยเฉพาะกลุ่มนโยบายและแผน ก็คือ ช่วยแนะนำโรงเรียนถึงวิธีการวิเคราะห์ความขาดแคลน และวิธีเสนอของบประมาณ ถึงแม้ว่าจะมีผู้ปรารถนาดีมาช่วยชี้แนะว่าต้องขอเรื่องนั้น เรื่องนี้ ขอให้โรงเรียนนั้น โรงเรียนนี้ หากโรงเรียนดังกล่าวไม่มีความขาดแคลน ก็คงต้องชี้แจงทำความเข้าใจกับผู้ปรารถนาดีเหล่านั้น ว่าต้องเปลี่ยนเป้าหมาย เพราะหากจัดสรรงบประมาณให้กับจุดที่ไม่มีความต้องการ หรือเกินความจำเป็น สพฐ.คงตอบคำถามสังคม โดยเฉพาะโรงเรียนที่ขาดแคลนแต่ไม่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณลำบากมาก อย่าลืมนะครับว่างบแปรญัตติ ปี 2555 นี้มีเพียง 2 รายการเท่านั้น ดังนั้นหากส่งรายการที่นอกเหนือจากที่กำหนดไว้ สพฐ. จะส่งกลับคืนให้มาให้เขตเพื่อขอเปลี่ยนแปลงจากผู้ว่าราชการจังหวัดเอง และเพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปในแนวเดียวกัน ต้น ๆ มกราคม สพฐ. จะส่งแบบฟอร์มและรายละเอียดในการของบประมาณแปรญัตติมาให้เขตพื้นที่ ขณะนี้หลายเขตส่งคำของบแปรญัตติไปให้ สพฐ.แล้ว ซึ่งยังไม่เป็นประโยชน์อันใดและหลายเขตก็ขอออกนอกกรอบที่กล่าวมา ซึ่งผมกำลังให้น้องๆส่งกลับคืน งบประมาณทั้งงบปกติและงบแปรญัตติคงได้รับเร็วที่สุดก็กลางๆกุมภาพันธ์ 2555 ครับ อนึ่งในรอบปีที่ผ่านมาได้มีผู้แอบอ้างว่าเป็นคนของ สพฐ. บ้าง เป็นคนของ สนผ. บ้าง ลงมาแนะนำให้ของบประมาณเรื่องนั้น เรื่องนี้ แล้วจะไปช่วยประสานงานกับผู้ใหญ่เพื่อให้ได้งบประมาณ ผมขอเรียนให้ทราบว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการแอบอ้างหาผลประโยชน์ทั้งสิ้น ต้องขอบคุณพี่น้องชาวแผนที่โทรไปถามข้อเท็จจริง ช่วยถ่ายรูปและช่วยให้เบาะแส เพื่อกำจัดคนพวกนี้ให้หมดไป อ้างอิงข้่อมูลจาก

เสมา1ชี้คลิปนร.เต้นเพราะครูละเลยเด็ก

วันนี้(29 ธ.ค.) นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รมว.ศึกษาธิการ กล่าวถึงกรณีคลิบนักเรียนชั้นมัธยมเต้นไม่เหมาะสมว่า เรื่องที่เกิดขึ้นถือว่าไม่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งครูจะต้องดูแลใกล้ชิดนักเรียนให้เข้มงวดมากกว่านี้ โดยกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) อาจจะต้องให้ครูยกเว้นกิจกรรมการอบรมต่างๆลง เพื่อให้ดูแลนักเรียนมากขึ้น ทั้งนี้ตนมองว่าครูมุ่งแต่ทำผลงานทางวิชาการเพื่อประเมินวิทยฐานะของตนเองมากเกินไป จนละเลยการเข้มงวดกับนักเรียน และการทำผลงานวิชาการของครูก็ไม่ได้มุ่งผลสัมฤทธิ์จากตัวเด็ก จึงส่งผลให้ครูและนักเรียนมีความห่างเหินกัน ดังนั้น ศธ.จะรื้อระบบการประเมินวิทยฐานะของครูใหม่โดยต้องเน้นผลสัมฤทธิ์ที่เกิดขึ้นกับนักเรียนอย่างแท้จริง อย่างไรก็ตาม ศธ.กำลังจัดทำโครงการผู้นำนักเรียนตามธรรมชาติขึ้น ซึ่งโครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์ลักษณะความเป็นผู้นำในด้านการสร้างความสามัคคีให้แก่นักเรียนทั้งหมด ซึ่งผู้นำนักเรียนนักศึกษาเหล่านี้ จะต้องไปคิดค้นการจัดกิจกรรมที่สร้างความสมานฉันท์ในหมู่นักเรียนนักศึกษาว่ามีอะไรบ้าง และกิจกรรมไหนที่จะหยุดพฤติกรรมเพื่อนๆ กลุ่มเสี่ยงที่ไม่ก่อเหตุทะเลาะวิวาทกับเพื่อนต่างสถาบันอีก พร้อม ศธ. จะจัดสรรงบประมาณเพื่อดูแลโครงการนี้ให้ด้วย นอกจากนี้จะร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) จัดนักจิตวิทยาผู้เชี่ยวชาญลงให้คำแนะนำกับนักเรียน นักศึกษา เพื่อละลายพฤติกรรมรุนแรงในตัวเด็กด้วย ทั้งนี้สิ่งที่เกิดขึ้นแล้วไม่สามารถแก้ไขได้แต่จะดูว่าจะมีมาตรการป้องกันไม่ให้เรื่องนี้เกิดขึ้นอีกได้อย่างไร ด้าน ดร.ชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ) กล่าวว่า เรื่องนี้ครูประจำชั้นและผู้บริหารสถานศึกษาจะต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น ในฐานะที่ปล่อยละเลยนักเรียนให้แสดงพฤติกรรมที่ไม่มาะสม ซึ่งการกระทำของเด็กอยู่ในช่วงวัยรุ่นและอาจไปเห็นการเต้นลักษณะนี้จากที่อื่นและก็มาโชว์ความกล้าแสดงออกต่อหน้าเพื่อนๆ โดยยังไม่ทราบว่าเด็กที่เต้นอยู่ในคลิปเป็นนักเรียนจากโรงเรียนใด ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ ทั้งนี้ตนอยากให้ครูดูแลนักเรียนให้ใกล้ชิดมากกว่านี้ เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นจะเห็นได้ว่าเกิดจากช่องว่าระหว่างการบริหารงานภายในโรงเรียน อ้างอิงแหล่งข่าวจาก