เลือกภาษา
Long live the King of Thailand
ในหลวงเสด็จทุ่งมะขามหย่อง อยุธยา
การแสดงชุดหลั่งเลือดทาบทา ปกปักษ์รักษาแผ่นดิน ณ ทุ่งมะขามหย่อง
วันอาทิตย์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556
แต่งตั้งคณะกรรมการการปฏิรูปหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานแห่งชาติ
ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี ๕๖/๒๕๕๖ ศธ.แต่งตั้งคณะกรรมการการปฏิรูปหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานแห่งชาติ
นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ลงนามในคำสั่งกระทรวงศึกษาธิการ ที่ สร ๑๙๗/๒๕๕๖ ลงวันที่ ๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการการปฏิรูปหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานแห่งชาติ เพื่อให้การปฏิรูปหลักสูตรและการพัฒนาตำราเรียนในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายของรัฐบาลที่ได้แถลงไว้ต่อรัฐสภา สามารถดำเนินไปได้โดยมีประสิทธิภาพ โดยได้แต่งตั้งบุคคลเป็นคณะกรรมการรวม ๒ คณะ มีผลตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
คณะกรรมการการปฏิรูปหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานแห่งชาติ ประกอบด้วย
- คณะที่ ๑ คณะกรรมการกำหนดวิสัยทัศน์การปฏิรูปหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยมี รมว.ศธ. เป็นประธานกรรมการ มีหน้าที่กำหนดวิสัยทัศน์ เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิรูปหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน วางแนวทางระบบการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานของชาติ และให้ความเห็นชอบระบบการจัดการศึกษา และหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานที่คณะกรรมการที่เกี่ยวข้องได้ทำการพัฒนาและยกร่าง
- คณะที่ ๒ คณะกรรมการปฏิรูปหลักสูตรและตำราการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยมี ศ.พิเศษ ภาวิช ทองโรจน์ ที่ปรึกษา รมว.ศธ.เป็นประธานคณะกรรมการ มีอำนาจและหน้าที่ดังนี้
๑) ออกแบบระบบการศึกษาขั้นพื้นฐานที่จะให้ประกาศใช้เป็นระบบการศึกษาของประเทศ โดยศึกษา วิเคราะห์ข้อดีข้อเสียของระบบการศึกษาที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน โดยเปรียบเทียบกับระบบการศึกษาของประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะประเทศที่การศึกษามีคุณภาพสูง
๒) ร่างหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานใหม่ทั้งระบบ ให้เป็นหลักสูตรที่ทันต่อการเปลี่ยนแปลงทางวิชาการของโลก สามารถใช้เป็นเครื่องมือในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และพัฒนาสังคมไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
๓) กำหนดรายวิชาต่างๆ ในหลักสูตร รวมทั้งเนื้อหารายวิชา รายละเอียดการจัดการเรียนการสอน รวมทั้งลำดับขั้นในการเรียนรู้ของเนื้อหาในรายวิชาต่างๆ ที่เหมาะกับพัฒนาการของนักเรียนไทย โดยมุ่งให้เกิดระบบการจัดการศึกษาที่มีสัมฤทธิ์ผลสูง
๔) ดำเนินการโครงการ "ตำราเรียนแห่งชาติ" ที่รัฐบาลได้แถลงไว้ต่อรัฐสภา โดยการกำหนดโครงสร้างของตำราเรียนทุกรายวิชา เพื่อเป็นแนวทางการแต่งตำราเรียนของโรงเรียน ครูอาจารย์ สำนักพิมพ์ และนักวิชาการต่างๆ ทั้งตำราเรียนแบบสิ่งพิมพ์ และสื่ออิเล็กทรอนิกส์
๕) พัฒนาระบบการอนุมัติต้นฉบับตำราเรียนที่มีประสิทธิภาพและมีหลักประกันด้านคุณภาพ
๖) ดำเนินการทดสอบหลักสูตรและรายวิชาต่างๆ รวมทั้งตำราเรียน ในโรงเรียนนำร่องที่มีความเหมาะสม
๗) วางแผนการประกาศและใช้หลักสูตรใหม่ทั่วทั้งระบบการศึกษาของประเทศ
๘) มีอำนาจในการตั้งคณะอนุกรรมการ หรือคณะทำงาน เพื่อประโยชน์ในการดำเนินโครงการให้บรรลุตามเป้าหมาย
อ้างอิงจาก http://www.moe.go.th/websm/2013/feb/056.html
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น